เหตุเกิดที่ร้านอาหารไทย
เราอยากเล่าถึงวันนึงที่ไปกินอาหารไทยที่ภัตตาคารอาหารไทยหรูย่าน downtown ซะหน่อย วันนั้นที่ได้ไปก็เพราะมีเหล่าซือใจดีคนนึง เค้าชอบคนไทยมาก ๆ เค้าเลยเอ็นดูนักเรียนไทยเป็นพิเศษ ท่านพาไปกินอาหารไทยที่ร้านนี้ค่ะ ไปกับเหล่าซือและก็ไท่ไท่(เมีย)ของเหล่าซือด้วย ร้านอาหารตกแต่งแบบไทย ๆ มีรูปภาพสถานที่ท่องเที่ยวในไทย บรรยากาศไทยๆ ดี มีพระฉายาลักษณ์ของพ่อหลวงรัชกาลที่ห้า ท่านกำลังคั่วอะไรสักอย่างอยู่ท่าน้ำ เป็นภาพที่ท่านใส่ผ้าขาวม้า สูบบุหรี่ แล้วทำอาหารไปด้วยไง ที่ร้านเปิดเพลงไทยด้วยนะ ได้ยินพี่เบิร์ดร้องเพลง "สรุปว่าบ้า" (อัลบั้มเก่ากรุทองมั๊กม๊าก) เหล่าซือพาไปนั่ง และก็สั่งอาหาร วันนั้นได้กินเมนูดังนี้
เมนูแรก. แกงเขียวหวานไก่ ซึ่งมีแต่เนื้อไก่กับน้ำแกงเขียวหวาน รสชาติออกหวาน มันกระทิ ไม่มีผักเลย รสชาด งั้น ๆ ถ้าทำรสชาดแบบนี้ขายที่เมืองไทย คงเหลือบานตะไท ไม่มีใครซื้อกินแน่นอน
เมนูที่ 2. ผัดกะเพราไก่สับ ประกอบด้วยเนื้อไก่สับ มีใบกะเพราสามสี่ใบให้เห็นว่านี่คือผัดกะเพรานะวุ้ย! ไม่ใช่ผัดคื่นช่าย แล้วโรยหน้าด้วยพริกป่น โอ้โห สรุปคือได้กินไก่ผัดน้ำมันโรยหน้าด้วยใบกะเพราไม่เกิน 5 ใบและพริกป่น ตรูละไม่รู้จะบอกเหล่าซือว่าไงตอนท่านถามว่าอร่อยไหม กินแล้วหายคิดถึงบ้านหรือป่าว คือรสมันเผ็ดพริกป่น และกะเพราก็ใส่น้อยเกินไป ไม่ได้ฟิวผัดกะเพราเลย เหมือนกินไก่สับคลุกพริกป่นมากกว่า
เมนูที่ 3 คือ ไก่ย่างราดน้ำจิ้ม อันนี้ค่อยกินได้หน่อย แต่รสชาติมันไม่ไทยแลนด์เท่าไหร่
เมนูที่ 4. ยำผักรวม อันนี้แซ่บสุดแล้ว กินแล้วรู้สึกว่าเหมือนได้กลับบ้านหน่อย รสเปรี้ยวมะนาว เผ็ดพริกขี้หนู อร่อยใช้ได้
เมนูที่ 5.ผัดผักบุ้งไฟแดง ผักบุ้งคล้ายบ้านเรา แต่ลำต้นสั้นกว่า ใบใหญ่กว่า ไม่รู้แม่ครัวไปจำสูตรไหนมา เสือกใส่กะปิลงไปผัดด้วย กินแล้วได้กินกะปิปนซีอิ๊วและเครื่องยาจีน โคตรแปลกเลยอ่ะ เราว่ามันไม่เข้ากันน่ะ
เมนูที่ 6. ปลาทอดราดน้ำจิ้มสามรส ประกอบไปด้วย รสชาติเค็มของซีอิ้ว รสหวานของน้ำผึ้ง และรสขมๆของพริกไทยบางอย่าง
สรุปอาหารมื้อนั้น ตรูประทับใจ หายคิดถึงบ้านมั๊ยวะ? ... มันไม่ช่าย~~ ไม่จริง~~ ความรู้สึกเหมือนกำลังจะบินกลับไทยแลนด์แต่เครื่องบินดันลงที่สนามบินไซ่งอน เวียดนามซะงั้น !
แต่ก็ซาบซึ้งในน้ำใจของเหล่าซือท่านนี้มาก ๆ ค่าอาหารแพงมาก ๆ ตกจานละสามสี่ร้อยได้มั้ง เราก็เลยบอกว่าคราวหน้าจะไปทำอาหารไทยให้เหล่าซือกินที่บ้านดีไหมคะ เหล่าซือยินดีมาก แต่พวกเรายินดีมากกว่า 10 เท่าเลย ~ ถึงแม้เราจะไม่ถนัดทำอาหาร แต่เราแน่ใจว่าฝีมือทำอาหารแบบเปิดตำราทำครั้งแรกของเราต้องอร่อยกว่าอาหารสัญชาติไทยแต่เชื้อชาติอะไรก็ไม่รู้แบบที่ได้กินครั้งนี้แน่นอน เพราะคนไทยแท้ทำเองนี่นา~~
เมนูแรก. แกงเขียวหวานไก่ ซึ่งมีแต่เนื้อไก่กับน้ำแกงเขียวหวาน รสชาติออกหวาน มันกระทิ ไม่มีผักเลย รสชาด งั้น ๆ ถ้าทำรสชาดแบบนี้ขายที่เมืองไทย คงเหลือบานตะไท ไม่มีใครซื้อกินแน่นอน
เมนูที่ 2. ผัดกะเพราไก่สับ ประกอบด้วยเนื้อไก่สับ มีใบกะเพราสามสี่ใบให้เห็นว่านี่คือผัดกะเพรานะวุ้ย! ไม่ใช่ผัดคื่นช่าย แล้วโรยหน้าด้วยพริกป่น โอ้โห สรุปคือได้กินไก่ผัดน้ำมันโรยหน้าด้วยใบกะเพราไม่เกิน 5 ใบและพริกป่น ตรูละไม่รู้จะบอกเหล่าซือว่าไงตอนท่านถามว่าอร่อยไหม กินแล้วหายคิดถึงบ้านหรือป่าว คือรสมันเผ็ดพริกป่น และกะเพราก็ใส่น้อยเกินไป ไม่ได้ฟิวผัดกะเพราเลย เหมือนกินไก่สับคลุกพริกป่นมากกว่า
เมนูที่ 3 คือ ไก่ย่างราดน้ำจิ้ม อันนี้ค่อยกินได้หน่อย แต่รสชาติมันไม่ไทยแลนด์เท่าไหร่
เมนูที่ 4. ยำผักรวม อันนี้แซ่บสุดแล้ว กินแล้วรู้สึกว่าเหมือนได้กลับบ้านหน่อย รสเปรี้ยวมะนาว เผ็ดพริกขี้หนู อร่อยใช้ได้
เมนูที่ 5.ผัดผักบุ้งไฟแดง ผักบุ้งคล้ายบ้านเรา แต่ลำต้นสั้นกว่า ใบใหญ่กว่า ไม่รู้แม่ครัวไปจำสูตรไหนมา เสือกใส่กะปิลงไปผัดด้วย กินแล้วได้กินกะปิปนซีอิ๊วและเครื่องยาจีน โคตรแปลกเลยอ่ะ เราว่ามันไม่เข้ากันน่ะ
เมนูที่ 6. ปลาทอดราดน้ำจิ้มสามรส ประกอบไปด้วย รสชาติเค็มของซีอิ้ว รสหวานของน้ำผึ้ง และรสขมๆของพริกไทยบางอย่าง
สรุปอาหารมื้อนั้น ตรูประทับใจ หายคิดถึงบ้านมั๊ยวะ? ... มันไม่ช่าย~~ ไม่จริง~~ ความรู้สึกเหมือนกำลังจะบินกลับไทยแลนด์แต่เครื่องบินดันลงที่สนามบินไซ่งอน เวียดนามซะงั้น !
แต่ก็ซาบซึ้งในน้ำใจของเหล่าซือท่านนี้มาก ๆ ค่าอาหารแพงมาก ๆ ตกจานละสามสี่ร้อยได้มั้ง เราก็เลยบอกว่าคราวหน้าจะไปทำอาหารไทยให้เหล่าซือกินที่บ้านดีไหมคะ เหล่าซือยินดีมาก แต่พวกเรายินดีมากกว่า 10 เท่าเลย ~ ถึงแม้เราจะไม่ถนัดทำอาหาร แต่เราแน่ใจว่าฝีมือทำอาหารแบบเปิดตำราทำครั้งแรกของเราต้องอร่อยกว่าอาหารสัญชาติไทยแต่เชื้อชาติอะไรก็ไม่รู้แบบที่ได้กินครั้งนี้แน่นอน เพราะคนไทยแท้ทำเองนี่นา~~
Comments
Post a Comment