Posts

Showing posts from 2012

ใครจะเชื่อว่าเราติดยา (หอม)

Image
ปี พ.ศ.2555 บอกใครจะเชื่อว่า "ยาหอม" ก็ยังเป็นสิ่งที่ติดกระเป๋าของเราตลอดเวลา .. แทนที่จะเป็นลูกอมอิมพอร์ตหรือหมากฝรั่งล๊อตเต้ที่มีแพ็คเกจเท่ๆ ดูทันสมัย ..เวลาหยิบขึ้นมากินก็ดูเท่ เก๋ไก๋ เสริมบุคลิกให้ดูเป็นคนรุ่นใหม่ ต่างจากเราตอนที่จะหยิบยาหอมขึ้นมากินกลางวงในหมู่เพื่อนฝูงที่กำลังคุยกันอย่างออกรส เพื่อนจะตกใจว่า เฮ้ย~ ไม่สบายหรือ ? เป็นไรมากป่าว ?  ขนาดติดยาหอมไว้ในกระเป๋าเลยเหรอ?  มันยากที่จะพูดอธิบายน่ะ ..ลองใครมาเปิดกระเป๋าของเราสิ ถ้าเห็นว่ามีขวดยาหอมพร้อมร่องรอยการบริโภคอย่างสม่ำเสมอแล้ว เค้าคงคิดว่า คุณยายเจ้าของกระเป๋าใบนี้คงวัยรุ่นน่าดู เลือกกระเป๋าใช้ได้อินเทรนด์ไม่สมวัยเล้ยยย... จะบอกให้ว่าเมื่อก่อนเราก็ชอบกินยาอมโบตันด้วยแหละ แต่เนื่องจากว่ายาอมโบตันราคาแพงกว่า มีส่วนผสมที่ให้ความหวานอยู่นิดๆ ทำให้เราวิตกจริตไปเองว่ากินเยอะอาจทำให้อ้วนได้ และอีกอย่างกินแป๊บเดียวก็หมด ก็เลยลองเปลี่ยนมาบริโภคยาหอมดู ก็พบว่ารสชาดเย็นๆ หอมๆ กินแล้วชุ่มชื่นใจเหมือนกัน ถูกใจใช่เลยก็เลยพกติดตัวตลอดมา.. เคยมีเพื่อนหลายคนทักว่า กินยาหอมแบบนี้ติดหรือป่าวเนี่ยะ ? ทำเราตกใจเ...

ซานตี้เหริน แม้วอินเตอร์

เคยแอบคิดเล่นๆ นะว่าคนไต้หวันที่นี่ เวลาเค้ามองหน้าเรา เค้าจะคิดว่าเราเป็นพวกเดียวกับเค้าไหม ? เราพอจะทำตัวเนียนๆ เป็นคนไต้หวันมั่งได้หรือป่าว?  ราชนิกูลของเราก็มีเชื้อสายจีนแต้จิ๋วนะ อากงยังถือบัตรต่างด้าวอยู่เลย แต่จริงๆ แล้วเราเป็นคนจีนพันธุ์ทางแล้วล่ะ ความเป็นคนจีนอยู่ในตัวแค่ 25% ผิวเหลืองเหมือนคนเอเชียใต้ที่ไม่คล้ำทั่วไป และเราก็ดูไม่หมวยเท่าไหร่ ตอนที่ได้มาอยู่ที่นี่ช่วงแรก ๆ ก็รู้สึกได้ว่าหน้าตาเราไม่เหมือนคนที่นี่ เพราะคนที่นี่เค้าหมวยตี๋ของแท้ระดับเพ็ดดีกรี  มองหน้าก็รู้ว่าโตมาด้วยเต้าหู้ ซีอิ๊ว ซาลาเปาแน่นอน เวลาเดินไปไหนมาไหนกับน้องออน (เป็นคนใต้ สุราษ) ก็ชอบมีคนทักน้องออนว่าหน้าเหมือนฟิลิปปินส์ ไม่เหมือนคนไทย แล้วก็บอกว่าเราหน้าไม่เหมือนคนไทยเลย (คนไทยในความคิดพวกเค้าต้องผิวดำๆ เพราะแรงงานไทยมาทำงานโรงงานที่นี่เยอะ) และก็ว่าเราหน้าไม่เหมือนคนไต้หวันด้วย เค้ายืนคิดอยู่นานก็ทายไม่ได้ว่าเรามาจากไหน  มันทำให้เราคอนฟิวส์มาก ๆ ว่าหน้าตรูนี่มันไม่บ่งเชื้อชาติเลยเหรอ หรือเราจะหน้าเหมือนแม้วแบบที่เราเคยรู้สึกมาตลอด .. และแล้ววันนึง ..... ก็ได้คำตอบ ....คำตอบ...

ภาษาจีน..ภาษากาย..ภาษาใจ

เมื่อสองปีที่แล้ว ตอนที่เรามาเรียน มากิน มาอยู่ที่ไต้หวันช่วงแรก ๆ ความอึดอัดของเราช่วงนั้นก็คือเรื่องภาษาจีนนี่แหละ เราไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่าแค่การไม่รู้ภาษาจีนจะทำให้ชีวิตติดขัด หาข้าวกินลำบาก สื่อสารกับคนไต้หวันนอกมหาลัยยากขนาดนี้ เราไม่เคยเรียนรู้ภาษาจีนกลางมาก่อน และหลักสูตรที่เรามาเรียนที่นี่เป็นหลักสูตร International ใช้ภาษาอังกฤษสื่อสาร                ก่อนเดินทางมาเรียนที่นี่ก็ไปซื้อหนังสือคู่มือพูดภาษาจีนสำหรับนักเดินทางแต่เดชะบุญ~ดั๊นเป็นภาษาจีนกลางที่ใช้ในจีนแผ่นดินใหญ่ซึ่งตัวเขียนเป็นแบบ simplify แต่ที่ไต้หวันใช้ตัวเขียนแบบ traditional คือมีขีดเยอะกว่า แต่การออกเสียงอ่านเหมือนกัน จะต่างกันก็ตรง accent มั้ง ตอนมาอยู่ที่นี่ช่วงเดือนแรก ๆ ยังไม่เข้าใจภาษาจีน ... เวลาเดินไปไหน มาไหน ไม่รู้ว่าเค้าพูดอะไรกัน อ่านป้ายสินค้าหรือป้ายลดราคาไม่ออก อ่านฉลากข้างขวดที่มีแต่ภาษาจีนไม่ได้ ขวดแชมพู ครีมนวดผม หรือครีมอาบน้ำแยกไม่ออกเลย  .. อ่านป้ายเมนูอาหารไม่ได้. อยากกินอะไรก็บอกเค้าไม่ถูก ช่วงนั้นที่พอทำได้ก็คือต้องห...

เหตุเกิดที่ร้านอาหารไทย

เราอยากเล่าถึงวันนึงที่ไปกินอาหารไทยที่ภัตตาคารอาหารไทยหรูย่าน downtown ซะหน่อย วันนั้นที่ได้ไปก็เพราะมีเหล่าซือใจดีคนนึง เค้าชอบคนไทยมาก ๆ เค้าเลยเอ็นดูนักเรียนไทยเป็นพิเศษ ท่านพาไปกินอาหารไทยที่ร้านนี้ค่ะ ไปกับเหล่าซือและก็ไท่ไท่(เมีย)ของเหล่าซือด้วย ร้านอาหารตกแต่งแบบไทย ๆ มีรูปภาพสถานที่ท่องเที่ยวในไทย บรรยากาศไทยๆ ดี มีพระฉายาลักษณ์ของพ่อหลวงรัชกาลที่ห้า ท่านกำลังคั่วอะไรสักอย่างอยู่ท่าน้ำ เป็นภาพที่ท่านใส่ผ้าขาวม้า สูบบุหรี่ แล้วทำอาหารไปด้วยไง ที่ร้านเปิดเพลงไทยด้วยนะ ได้ยินพี่เบิร์ดร้องเพลง "สรุปว่าบ้า" (อัลบั้มเก่ากรุทองมั๊กม๊าก)  เหล่าซือพาไปนั่ง และก็สั่งอาหาร วันนั้นได้กินเมนูดังนี้ เมนูแรก.  แกงเขียวหวานไก่ ซึ่งมีแต่เนื้อไก่กับน้ำแกงเขียวหวาน รสชาติออกหวาน มันกระทิ ไม่มีผักเลย รสชาด งั้น ๆ ถ้าทำรสชาดแบบนี้ขายที่เมืองไทย คงเหลือบานตะไท ไม่มีใครซื้อกินแน่นอน เมนูที่ 2. ผัดกะเพราไก่สับ ประกอบด้วยเนื้อไก่สับ มีใบกะเพราสามสี่ใบให้เห็นว่านี่คือผัดกะเพรานะวุ้ย! ไม่ใช่ผัดคื่นช่าย  แล้วโรยหน้าด้วยพริกป่น  โอ้โห สรุปคือได้กินไก่ผัดน้ำมันโรยหน้า...